“ขมิ้นชัน” (Turmeric) ยังคงฮิตติดชาร์ตเทรนด์อาหารสุขภาพดีปี 2017 ขมิ้นชัน นั้นถือเป็นพืชสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมและมีสีเหลืองทอง สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เนื่องด้วยสรรพคุณ ที่ใช้แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ ปรับระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ขมิ้นชันก็ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ และมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยชะลอวัยและชะลอการเกิด ริ้วรอยอยู่ นอกจากนั้น ขมิ้นชันยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าต่อสุขภาพมากมาย เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม ทองแดง เหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี ไนอาซิน โปรตีน ใยอาหาร ฯลฯ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง สรรพคุณของขมิ้นชัน – ขมิ้นชันช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ลดโอกาสการเกิดโรคได้หลายชนิด – ขมิ้นชันช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โดยจะยับยัั้งการเติบโตและการกระจายตัวของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งเม็ดเลือดขาว – ขมิ้นชันมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ มีฤทธิ์ในการลดอาการอักเสบและสามารถลดความเจ็บปวดที่รุนแรงให้เบาลงได้ทุกชนิด – ขมิ้นชัน […]
ชากุหลาบ กุหลาบ เป็นไม้ดอกที่มีความสวยงามยากที่จะหาดอกไม้ชนิดอื่นมาเปรียบเทียบได้จนกระทั่งมีผู้ให้ฉายาว่า “ราชินีแห่งดอกไม้” ดังนั้นกุหลาบจึงเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกและใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้กุหลาบยังมีคุณสมบัติที่ดีเด่นอีกหลายประการ สามารถใช้ประโยชน์ได้กว้างขวาง เช่น ใช้เป็นไม้กระถาง ไม้ตัดดอก ตกแต่งสถานที่ ตลอดจนใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับทำเป็น น้ำมันหอมระเหย ดอกไม้แห้งและ แก้ระบายระบบขับถ่ายในร่างกาย ปีค.ศ 2007 ทีมนักวิจัยชาวเยอรมันและเดนมาร์กได้ทำการศึกษาประโยชน์ของผลกุหลาบต่อการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ในการศึกษาจากจำนวนอาสาสมัครประมาณ 74 คน (ส่วนใหญ่เป็นหญิง)ได้ทำการทดลองเป็นระยะเวลา 6 เดือนโดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งรับประทาน placebo หรือยาที่ไม่มีฤทธิ์ทางยาใช้หลอกคนไข้ fake treatment อีกกลุ่มทานผลกุหลาบผลปรากฎว่ากลุ่มที่ทานผลกุหลาบเป็นประจำจำนวน 25 % จะมีอาการปวดลดลงถึง 40 % ส่วนกลุ่มที่ทาน placebo ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลง กล่าวกันว่าชาที่ทำจากผลกุหลาบมีประสิทธิภาพดีในการรักษาโรคท้องร่วง และการติดเชื้อโดยเฉพาะการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ ช่วยให้ไตแข็งแรง วิตามินซีจากผลกุหลาบช่วยป้องกันและรักษาไข้หวัด บรรเทาอาการปวดศีรษะ ซึ่งชาวนิวซีแลนด์มีชื่อเสียงมากในการทำน้ำเชื่อมจากผลกุหลาบ […]
ปัญหาถุงใต้ตา เกิดจากไขมัน คือ ถุงไขมันที่อยู่ในเบ้าตา จะมีใต้เปลือกตาล่าง 3 ถุง ซึ่งถุงใต้ตาจะมี 2 แบบคือ ถุงใต้ตาแท้ ที่เกิดจากระบบต่อมไร้ท่อ ที่อยู่ในร่างกายทำงานผิดปกติ มีก้อนไขมันที่อยู่ใต้ตา จะค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นไปตามอายุ ส่วน ถุงใต้ตาเทียม จะเห็นว่ามีอาการใต้ตาล่างบวม เพราะเป็นอาการบวมน้ำ บริเวณใต้ตาล่าง อาจเป็นเพราะ ระบบการไหลเวียนในร่างกายไม่ดี ทำให้มีของเหลวไปคั่งอยู่ที่ใต้ตา และส่วนใหญ่ จะเป็นสาวที่ชอบอดนอน ทำงานดึก ร้องไห้บ่อยครั้ง ใช้สายตามากเกินไป หมั่นประคบเย็น ที่ดวงตาเป็นประจำ อาการตาบวมจะค่อย ๆ หายไปเอง สาเหตุของปัญหา “ถุงใต้ตา” สาเหตุนั้นมีได้หลายอย่าง เช่น เกิดจากพันธุกรรม โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคหอบหืด หรือโรคภูมิแพ้ กลุ่มนี้มักจะพบรอยดำที่ใต้ตา อาการตาแห้งตลอดจนการแพ้สารต่าง ๆ เช่น แพ้มาสคาร่า ซึ่งอาจจะมีการสะสมของมาสคาร่า ทำให้รู้สึกคัน พอคันแล้วก็จะถู จะขยี้ที่ตา จึงทำให้ไปกระตุ้นเกิดเป็นริ้วรอยและทิ้งรอยดำไว้ได้ ยังมีการอดนอนนั้น จะทำให้การไหลเวียนของโลหิตไม่ดี สารอาหารในเลือดลดลง […]
เห็ดหลินจือ เห็ดหลินจือแดง สายพันธุ์ Ganoderma Lucidum ตำราสมุนไพรโบราณที่เก่าแก่ที่สุดของจีน “เสิงหนงเปินเฉ่าจิง” ระบุว่าเห็ดหลินจือแดงนี้เป็นเทพเจ้าแห่งชีวิตที่มีพลังมหัศจรรย์ เป็นตัวป้องกัน ยับยั้ง รักษา บำรุง และฟื้นฟู ในตัวเดียวกัน เป็นยาบำรุงร่างกายและใช้เป็นยาอายุวัฒนะในการยืดอายุเห็ดหลินจือแดง ยังมีประโยชน์ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง รักษาโรคต่าง ๆ ได้หลายโรค และยังปลอดภัยไม่มีสารพิษใด ๆ ต่อร่างกาย จึงได้ฉายาว่า “ราชาแห่งสมุนไพร” – โพลีแซคคาไรล์ (Polysaccharide) สรรพคุณที่ช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกัน โดยจะกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวชนิดต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น ทำให้มีสรรพคุณในการป้องกันเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย และช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ – ออร์แกนิค เจอร์มาเนียม (Organic Germanium) แร่ธาตุที่ร่างกายเราดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว ช่วยในการควบคุมและปรับสมดุลของร่างกาย เพิ่มอัตราการไหลเวียนของเลือดและเพิ่มการนำออกซิเจนไปสู่เซลล์ ยังช่วยควบคุมสมดุลการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย นอกจากนั้นยังกระตุ้นการสร้าง Interferon อินเตอร์เฟอรอน ซึ่งช่วยในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย – นิวคลีโอไทด์ (Nucleotide) เช่น Adnosine สารอดีโนซีน ซึ่งมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดและกระตุ้นการเต้นของหัวใจ และพบว่าระดับสารอดีโนซีนจะสูงขึ้นในกรณีที่เราเกิดอาการบาดเจ็บที่สมองหรือ ไขสันหลัง หรือเมื่อเกิดอาการหน้ามืด […]
1 ไทอะมิน (บี1) วิตามินในกลุ่มนี้จำเป็นสำหรับสมอง โดยเฉพาะไทอะมินที่พบในสมองและเนื้อเยื่อประสาท ไทอะมินช่วยผ่อนคลายเนื้อเยื่อประสาท และหากขาดวิตามินชนิดนี้จะทำให้เกิดอาการความจำสับสนแบบเดียวกับพวกที่ติดเหล้า 2 กรดโฟลิก (บี 9) หรือโฟเลต ซึ่งมีอยู่ในอาหารหลากหลาย เช่น ผักโขม แอสพารากัส ถั่วเลนทิล โดยร่างกายจะสะสมโฟเลตไว้ในตับ หากตับเกิดอาการผิดปกติหรือถูกทำลายขึ้น ร่างกายจะขาดวิตามินชนิดนี้ โฟลิกทำหน้าที่ในการรวมตัวของกรดแอมิโนและการทำงานของเนื้อเยื่อประสาท นอกจากนั้นยังพัฒนาสมองส่วนของความทรงจำ หากขาดกรดโฟลิกจะทำให้เด็กขาดพัฒนาการทางสมอง และร่างกาย 3 กรดแอสซอร์บิก (วิตามินซี) วิตามินตัวนี้มีความเข้มข้นที่สุดในสมองส่วนพิทูอิทารี 400 มิลลิกรัม/กิโลกรัม วิตามินซีจำเป็นต่อการรวมตัวกันของสารโดพามีนในสมอง ส่วนนิวโรทรามสมิตเตอร์ และช่วนปกป้องสมองไม่ให้เครียดเพราะการออกซิเดชั่น ร่างกายไม่สามารถสะสมวิตามินชนิดนี้ในร่างกายได้ 4 แคลเซียม แคลเซียมเป็นเกลือแร่ที่สำคัญระดับต้นๆในการทำงานของสมอง มีหน้าที่หลักในการสื่อเซลล์ประสาท ช่วยควบคุมการทำงานของนิวโรทรานสมิตเตอร์ ควบคุมความตื่นเต้นเพราะแคลเซียมเป็นส่วนหนึ่งของกระดูก หากได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอก็อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมาย 5 แมกนีเซียม มีบทบาทสำคัญในการทำให้วิตามินบีหลายชนิดทำหน้าที่ของมันเองได้ หากขาดแมกนีเซียม ร่างกายจะนำวิตามินหลายชนิดมาใช้กับสมองไม่ได้ แมกนีเซียมช่วยสร้างเสริมความทรงจำระยะยาว และมีบทบาทในการควบคุมความตื่นเต้นในระบบประสาท ซึ่งหากร่างกายขาดวิตามินทั้งสองชนิดนี้จะส่งผลต่อการความคิดในสมอง 6 สังกะสี พบสังกะสีในสมองส่วนหน้า แต่การขาดสังกะสีก็ทำให้การทำงานของสมองและสุขภาพจิตลดลง เช่น พบว่าผู้ป่วยพาร์กินสันและอัลไซเมอร์ […]
เมล็ดเจีย (Chia Seed) เมล็ดเจียเป็นพืชในกลุ่มเครื่องเทศตระกูลเดียวกับกะเพรา หรือมินต์ เป็นพืชให้เมล็ดเล็ก ๆ มีสองสีคือดำและขาว เปลือกนอกเมล็ดพองตัวได้เหมือนเม็ดแมงลัก พืชชนิดนี้จะเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น และเป็นพืชเศรษฐกิจที่นิยมปลูกกันมากในทวีปอเมริกา ได้แก่ ประเทศเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา อาร์เจนตินา โบลิเวีย เอกวาดอร์ และกัวเตมาลา เมล็ดเจียเป็นธัญพืชที่มีคุณสมบัติเป็นทั้ง Super Fruit และ Super Seed อัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ ไฟเบอร์ กรดไขมันดีชนิดโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 แคลเซียม สารต้านอนุมูลอิสระ และโปรตีน ซึ่งเมื่อนำเมล็ดเจียเต็มเมล็ด หรือนำไปบด แล้วนำไปแช่กับของเหลว เช่น น้ำ น้ำผลไม้ หรือ นม เมล็ดเจียจะสามารถพองตัวขึ้นมาได้อีก 12 เท่า ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับอาหารได้ เช่น […]
