คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดที่อาจทำอันตรายต่อลูกน้อยและทำให้คุณแม่ป่วย ดังนั้น ความปลอดภัยของอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ โดยคุณแม่ตั้งครรภ์ อาหารที่ดีสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น ต้องมีการปนเปื้อนน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ยุคนี้อาจจะต้องทำใจเพราะของที่ปนเปื้อนเยอะเหลือเกิน สำหรับคนทั่วไปแม้จะมีสารปนเปื้อนตกค้างในร่างกายบ้างก็คงไม่เป็นไร เพราะภูมิคุ้มกันในร่างกายยังทำงานได้ดี แต่สำหรับทารกในครรภ์ไม่สามารถคัดสิ่งที่เป็นสารพิษกับร่างกายได้ ได้แต่รับอย่างเดียว ความหวังจึงอยู่ที่คุณแม่อย่างเดียว 1. อาหารกระป๋อง เป็นอาหารสะดวกซื้อสำหรับคุณแม่ยุคใหม่ แต่อย่าลืมว่าอาหารกระป๋อง ไส้กรอก หมูแฮม แหนม ลูกชิ้น ฯลฯ ล้วนมีผงชูรส บอแรกซ์ โซเดียมไนเตรต โซเดียมฟอสเฟต โซเดียมซัคคาริน และโซเดียมตัวอื่นๆ เช่น ผงฟู หากราคาถูกเนื้อที่ใช้มักเป็นเกรดต่ำ และอาหารเหล่านี้มีคุณค่าด้อยกว่าอาหารสด ดังนั้นการผลิตอาหารกระป๋องขึ้นมาเพื่อช่วยลดความขาดแคลนอาหารในบางฤดูกาลและช่วยให้ผลิตผลทางการเกษตรไม่ล้นตลาด โรงงานผลิตอาหารกระป๋องมีเป็นจำนวนมากในปัจจุบันนี้ซึ่งบางแห่งผลิตไม่ได้มาตราฐานเท่าที่ควรและนำออกมาจำหน่ายในท้องตลาดซึ่งอาจเกิดอันตราย แก่ผู้บริโภคได้เพราะอาหารบางชนิดเมื่อผลิตไม่ได้มาตรฐานแล้วจะทำให้อาหารในกระป๋องนั้นเกิดการบูดเสียเก็บไว้ไม่ได้นานหรือผู้ผลิตบางรายอาจนำส่วนผสมของสารบางชนิดซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค 2. น้ำอัดลม ส่วนน้ำอัดลมประกอบไปด้วยน้ำและน้ำตาล บางชนิดมีคาเฟอีนเหมือนที่มีอยู่ในกาแฟ ให้ความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เพิ่มพลังงานจากน้ำตาล แต่ไม่มีคุณค่าทางสารอาหาร ถ้าดื่มมากๆ ก็มักจะทำให้อ้วน จึงควรหลีกเลี่ยงไปดื่มน้ำผลไม้จะมีประโยชน์มากกว่า ในน้ำอัดลมมีกรดคาร์บอนิกในน้ำอัดลม ซึ่งเป็นกรดที่ทำให้น้ำอัดลมมีฟอง ซ่า กรดคาร์บอนิกนั้นสามารถย่อยมีฤทธิ์กัดกร่อยย่อยสลายหินปูนได้ ฉะนั้นกรดคาร์บอนิกจึงสามารถทำให้ฟันผุและกระดูกพรุนได้เช่นกัน 3. ของหมักดอง ยามแพ้ท้อง คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคน […]
พุงป่องปัญหาใหญ่ของใครหลายๆคน ที่ไม่ว่าจะลดยังไงเจ้าพุงป่องก็ยังมีขนาดที่เท่าเดิมหรือบางทีกลับมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่พุงป่องๆ ของเรานั้นมันอาจเป็นหนึ่งในตัวต้นเหตุของโรคมะเร็ง โรคหัวใจหรือโรคเบาหวานชนิดที่สอง เพราะฉะนั้นแล้วเรามาดูกันดีกว่าว่าเรามีพฤติกรรมไหนบ้างที่ส่งผลให้ลดพุงป่องลงไม่ได้ ออกกำลังกายไม่เพียงพอที่จะช่วยในการกระชับสัดส่วนหรือเผาผลาญไขมัน การออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน ว่ายน้ำหรือการออกกำลังเพื่อเรียกเหงื่อที่เรารู้จักกันในชื่อคาร์ดิโอ เป็นการออกกำลังกายที่จะช่วยเรื่องของหัวใจแต่สามารถที่จะช่วยเผาผลาญไขมันได้น้อยมาก เพราะฉะนั้นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ให้เราเล่นอย่างน้อยประมาณ 30 นาทีขึ้นไปเพื่อให้ร่างกายของเราได้เรียกใช้ไขมันมาเป็นพลังงาน หรือออกกำลังกายด้วยการเล่นเวทร่วมด้วย เป็นการช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายของเราเผาผลาญเพิ่มมากขึ้น นอนหลับพักผ่อนไม่พอต่อความต้องการของร่างกาย จากผลการวิจัยของสถาบันสุขภาพนานาชาติประเทศอเมริกา เผยว่ากลุ่มคนที่มีการนอนหลับน้อยกว่า 6 ชั่วโมง มีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นถึง 30% หรืออาจจะมากกว่า แต่ในกลุ่มคนที่มีการนอนหลับวันละไม่น้อยกว่า 7 – 8 ชั่วโมง จะมีแนวโน้มน้ำหนักตัวที่ลดลง ซึ่งก็เป็นเพราะว่าคนที่นอนหลับน้อย ร่างกายจะเกิดอาการแปรปรวน ส่งผลทำให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้ไม่เต็มที่หรือทำงานได้น้อยลงกว่าที่ควร ความเครียดเองก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เราไม่สามารถลดพุงป่องๆ ได้ลง เพราะเมื่อคนเราเครียดร่างกายของเราจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาในปริมาณที่มากเกินกว่าปกติ ทำให้ไขมันในเลือดกระจายไปสู่เซลล์ต่างๆ ส่งผลให้เกิดสภาวะไขมันในส่วนช่องท้องได้ง่ายกว่าปกติ อาหารกึ่งสำเร็จรูปเป็นหนึ่งในอาหารที่มีส่วนผสมของแป้งเยอะ พอร่างกายได้รับแป้งมากก็จะเปลี่ยนแป้งให้กลายเป็นไขมันแล้วเก็บสะสมเอาไว้ ส่วนการดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลม อาหารจังก์ฟู้ด หรืออาหารแป้งขัดสีทุกวันก็จะทำให้เรามีพุงป่องได้เช่นกัน อาหารเหล่านี้เป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้การทำลายพุงป่องเป็นเรื่องที่ยากขึ้น หากเรามีพฤติกรรมเหล่านี้แล้วล่ะก็ ต้องหยุดและหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราให้ถูกต้อง คราวนี้หล่ะพุงป่องๆ จะหายไปกลายเป็นหน้าท้องแบนราบที่ทุกคนต้องการ และยังช่วยลดต้นเหตุที่ทำให้เราเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจหรือโรคเบาหวานชนิดที่สองได้อีกด้วย คุ้มแบบนี้แล้วจะรอช้าอยู่ทำไมเรามาเริ่มกันตั้งแต่ตอนนี้เลยเพื่อตัวของเราเอง