ในยุคของการแข่งขัน ที่เรากำลังประสบอยู่ในปัจจุบัน ชีวิตมีความรีบเร่งมากขึ้น จนไม่ค่อยมีเวลาที่จะให้ความสำคัญกับเรื่อง ความสมดุลของอาหารที่รับประทานรวมทั้งค่านิยมการรับประทานอาหารแบบตะวันตก ซึ่งประกอบด้วย เนื้อสัตว์ ไขมัน นม เนย เป็นส่วนใหญ่ ทำให้คนไทยมีโรค ซึ่งเกิดจากการกินดีเกินไป เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอัมพาต ซึ่งโรคเหล่านี้ล้วนเกี่ยวกับความเสื่อมของหลอดเลือด คนไทยหันมาใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องการออกกำลังกาย การใช้ชีวิต หรือการทานอาหารที่กากใยธรรมชาติ วิตามิน และเกลือแร่มากขึ้น 1. ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสีดำๆ ม่วงๆ นิ่มเหนียวเคี้ยวมันนี่ล่ะค่ะ สรรพคุณดีไม่แพ้ควินัว หรือเมล็ดเจียเลยทีเดียว นอกจากจะเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ดีกว่าข้าวขาวแล้ว ยังมีสารอาหารที่น่าสนใจอีกเพียบ เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินอี สังกะสี โฟเลต โอเมก้า 3 แถมยังช่วยสร้างคอลลาเจน และลดสิวได้อีกด้วย 2. ปลาเนื้อขาว ไม่ว่าจะเป็นปลาหิมะ ปลาดอลลี่ ปลากะพง และปลาเนื้อขาวอื่นๆ กำลังเป็นที่นิยมของหมู่คนรักสุขภาพ ที่พยายามเลี่ยงเนื้อแดงทั้งหลาย เพราะหลายคนทราบกันดีว่าเนื้อแดงเป็นสาเหตุบางส่วนของการเกิดโรคมะเร็ง ทั้งนี้ปลาเนื้อขาวทั้งอร่อย ปรุงง่าย ย่อยง่าย […]
แอปเปิ้ลนั้นจะมีสารอาหารจำพวกเกลือแร่และวิตามินหลาย ๆ ชนิดที่มีความจำเป็นต่อร่างกายของมนุษย์ นอกจากนี้แล้วแอปเปิ้ลก็ยังมีสรรพคุณในการช่วยย่อยอาหาร ช่วยลดความดันโลหิตภายในร่างกาย ช่วยขับเกลือจำพวกโซเดียมส่วนเกินให้ออกไปจากร่างกาย อีกทั้งแอปเปิ้ลยังมีสรรพคุณในการเป็นยาระบายอ่อน ๆ อีกด้วย นอกจากนี้แล้ว สาร Pectin จำนวนมากในผลแอปเปิ้ลก็ยังจะช่วยทำให้ระบบความสมดุลของการย่อยสลาย และการดูดซึมอาหารของมนุษย์เป็นปกติและดีขึ้นอีกด้วย ดังนั้นแอปเปิ้ล 1 ผล ให้คุณค่าทางโภชนาการมากมายเช่น • ให้พลังงาน 80 แคลอรี่ • วิตามิน B6 0.1 กรัม • วิตามิน C 7.9 มิลลิกรัม • ธาตุเหล็ก 0.2 มิลลิกรัม • ธาตุทองแดง 0.1 มิลลิกรัม • ธาตุโพแทสเซียม 158.7 มิลลิกรัม – แอปเปิ้ลช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้ แอปเปิ้ลมีสารเพคตินซึ่งเป็นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ เมื่อกรดในทางเดินอาหารย่อยสลายไขมัน แยกคอเลสเตอรอลออกมา เพคตินจากแอปเปิ้ลจะไปคอยดักจับคอเลสเตอรอลเหล่านั้น และนำไปทิ้งก่อนที่จะถูกดูดกลับเข้าสู่ร่างกายอีกครั้งได้ – แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือด – […]
อาหารต้องห้าม ตัวการสมองพัง รีบเลี่ยงก่อนสายเกินแก้ อาหารบางชนิดนั้นก็สามารถทำลายสมองได้เช่นกัน ทำให้คิดไม่ออก หรือมีปัญหาเรื่องความจำ ซึ่งขอบอกเลยล่ะว่าอาหารเหล่านั้นน่ะเป็นอาหารที่คุณอาจจะคาดไม่ถึง นอกจากนั้นยังเป็นอาหารหลักๆของคนอีกหลายๆคน และที่สำคัญ ใครที่กำลังติดใจกับอาหารเหล่านี้จะเลิกก่อนที่ปากท้องจะพาปัญหาสุขภาพมาสู่ร่างกายของคุณโดยไม่รู้ตัว แต่จะเป็นอาหารอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย 1 อาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารฟาสต์ฟู้ดที่เราเห็นว่าสะดวกนี่ล่ะ คือวายร้ายที่ทำลายสมองเลย เพราะทั้งไขมันทรานส์ ไขมันอิ่มตัว โซเดียม น้ำตาล ล้วนแต่เป็นส่วนประกอบสำคัญของอาหารประเภทนี้ โดยการศึกษาแสดงให้เห็นว่าคนที่รับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ดเข้าไปมีความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าคนทั่วไปที่ไม่ค่อยกินอาหารฟาสต์ฟู้ดถึง 40% นอกจากนี้ก็ยังมีผลกระทบที่มาจากสารอาหารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกเพียบเลย 2 น้ำตาล ระดับน้ำตาลในเลือดที่ผูกผันจากการบริโภคน้ำตาลในปริมาณมาก สามารถส่งผลให้หลอดเลือดและเส้นประสาทเกิดความเสียหายได้ โดย ปริมาณน้ำตาลในเลือดที่สูงมากเกินไปจะส่งผลกระทบกับสมองในส่วนที่ควบคุมการทำงานของสมองในส่วนของความทรงจำทำให้สมองเกิดขุ่นมัวและไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ นอกจากนี้ระดับน้ำตาลที่สูงก็ยังเชื่อมโยงกับอาการซึมเศร้าได้ นอกจากการเลี่ยงการเติมน้ำตาลลงในอาหารที่รับประทานแล้ว การอ่านฉลากให้อย่างถี่ถ้วน หากน้ำตาลเป็นส่วนประกอบของอาหารที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ในฉลากละก็เลี่ยงได้เลย 3 อาหารทะเล อาหารทะเลเป็นหนึ่งในอาหารที่ทำร้ายสมอง หลายคนคงอาจจะไม่เชื่อ แต่นี่คือความจริง จากการศึกษาหนึ่งของมหาวิทยาลัยเซาท์ฟอริด้าได้เปิดเผยว่า ผู้ที่มีระดับปรอทในกระแสเลือดสูงกว่าระดับที่ปลอดภัย จะมีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของสมอง ซึ่งสารปรอทส่วนใหญ่ก็มักจะอยู่ในอาหารทะเลที่มีการปนเปื้อน ดังนั้นถ้าหากจะรับประทานอาหารทะเล ก็ควรจะเลือกที่สะอาดและมันใจได้ว่าจะไม่มีการปนเปื้อนของสารปรอท เพื่อที่จะได้ไม่ห่างไกลจากสารปรอทที่ทำลายการทำงานสมอง 4 ไขมันอิ่มตัว ไขมันอิ่มตัว ถ้าหากมีสูงมากเกินไปก็อาจทำให้ความสามารถของสมองในการต่อสู้กับการก่อตัวของคราบพลัคที่เป็นสาเหตุของอัลไซเมอร์ได้ นั้นแสดงให้เห็นว่าไขมันอิ่มตัวจะสร้างความเสียหายให้กับความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือแม้แต่ในเรื่องของความจำในช่วงระยะเวลายาว […]
เมื่อรูปร่างกลายเป็นปัจจัยสำคัญในยุคปัจจุบันมากขึ้น ทำให้สาวๆหันมารักษารูปร่างมากขึ้น ทั้งออกกำลังกาย อดอาหาร สารวิธีการ ผลไม้เป็นแต่ตัวช่วยที่ไม่ยากและไม่ได้ใช้เวลามากมายในการเผาผลาญ และยังเป็นตัวช่วยทำให้สาวๆมีผิวที่สวยใสมากขึ้นด้วย ถึงเคยได้ยินมาว่าผลไม้หลายชนิดมีน้ำตาลสูง กินแล้วไม่ได้ช่วยให้ผอมได้เลยนั่นเป็นแค่ผลไม้บางชนิดเท่านั้น ดังนั้นมาดูกันว่าผลไม้ชนิดไหนที่สามารถช่วยควบคุมน้ำหนักไม่ให้เพิ่มมากขึ้น และยังเป็นตัวช่วยในการทำให้ร่างกายอิ่มท้องได้ด้วย แอปเปิล แอปเปิลเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และเกลือแร่ที่ดีต่อร่างกาย ด้วยเหตุผลนี้แอปเปิลจึงเป็นผลไม้ตัวแม่สุดจี๊ดที่ช่วยลดน้ำหนัก เพราะไฟเบอร์จะช่วยให้คุณอิ่ม ไม่กินจุบจิบ ระบบการขับถ่ายก็จะดีเลิศ แถมยังมีวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยเปล่งปลั่งได้อีกต่างหาก ส้ม ด้วยปริมาณวิตามินซีที่สูงลิ่ว ไธอามีน และโฟเลทในผลไม้ลูกเล็ก ๆ อย่างส้ม ทำให้ส้มเป็นผลไม้ที่ช่วยเร่งระบบการเผาผลาญได้ดีอีกชนิดหนึ่ง อีกทั้งเนื้อส้มยังให้ไฟเบอร์ช่วยระบบขับถ่ายได้ถึง 5 กรัม ต่อส้มสดปริมาณ 1 ถ้วยตวง ในขณะที่ให้พลังงานกับร่างกายเพียงแค่ 85 กิโลแคลอรี่เท่านั้น มะละกอ เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ามะละกอเป็นผลไม้ตัวแม่ที่ช่วยเรื่องการขับถ่าย นอกจากปริมาณไฟเบอร์มหาศาล มะละกอยังมีเอนไซม์ช่วยย่อย ทำให้อาหารที่เรากินเข้าไปถูกย่อย และดูดซึมได้โดยง่าย อีกทั้งมะละกอยังมีฟลาโวนอยด์ แคโรทีน วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระเป็นอาวุธชั้นดี เพื่อต่อสู้กับไขมัน และส่วนเกินของเราอีกด้วย ลูกแพร์ ถ้าพูดถึงผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง ลูกแพร์ก็คงติดอันดับผลไม้ที่ว่านั้นด้วย และอาจจะมีภาษีดีกว่านิดนึงตรงที่มีโพแทสเซียมช่วยบำรุงหัวใจ และสุขภาพร่างกายโดยรวมของเราได้เป็นอย่างดี […]
ยาอายุวัฒนะจากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ศึกนัดนี้ใครจะเริ่ดกว่ากัน ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้ง 7 ชนิดๆ ไหนมีประโยชน์อะไรบ้างและชนิดไหนที่สาวๆ ต่างเทคะแนนเป็นผลไม้ของตนเองบ้าง 1 โกจิ เบอร์รี่ (เก๋ากี้) ผลโกจิเบอร์รี่เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าด้านสารอาหารมากที่สุด ผลโกจิเบอร์รี่ (เก๋ากี้) ใช้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญทางยาจีน และการต่อต้านอนุมูลอิสระ มีพลังแอนตี้ออกซิแดนซ์ (ต่อต้านอนุมูลอิสระจากการทำลายเซลล์และชะลอความชรามากที่สุดในโลก) ควบคุมน้ำตาลในเม็ดเลือดแดง เสริมสร้างการทำงานของหัวใจ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย 2 แครนเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ จัดเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีลักษณะเป็นไม้เลื้อย นิยมปลูกเพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์ในอเมริกา ผลแครนเบอร์รี่เป็นผลสีแดงสด มีรสเปรี้ยวหวาน ช่วยป้องกันโรคเหงือก รักษาแผลในช่องท้อง รักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ ติดเชื้อในท่อปัสสาวะ ขจัดกลิ่นปัสสาวะได้ดี ช่วยทำให้ร่างกายสามารถกลับคืนสู่สภาวะปกติได้หลังเกิดอาการชัก 3 สตรอเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ จัดอยู่ในตระกูลพืชล้มลุก ใช้ปลูกคลุมดิน แต่มีผลสามารถรับประทานได้ เป็นพืชในกลุ่มวงศ์เดียวกันกับบ๊วย แอปเปิ้ลและกุหลาบ โดยตัวสตรอเบอร์รี่เองนั้นมีมากมายหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งพันธ์ุแท้ และลูกผสมจึงทำให้สตรอเบอร์รี่มีรสชาติที่หลากหลาย ตั้งแต่เปรี้ยวมากๆจนถึงหวานจัด อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารมากมายไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระได้แก่ แอนโทไซยานิน […]
สุดยอดผลไม้หน้าร้อนที่คุณและลูกไม่ควรพลาด ทุเรียน มะม่วง มังคุด แตงโม ในหน้าร้อนนี้ เพราะเป็นผลไม้ตามฤดูการและจะมีรสชาติที่อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อแล้วยังมีประโยชน์สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และเด็กๆอีกมายเลยนะคะ หน้าร้อนนี้ลองเลือกหาผลไม้ ที่กล่าวมา รับประทานให้ได้ในหน้าร้อนน่ะอย่างมะม่วงมีฤทธิ์เย็น ช่วยบำรุงกระเพาะ ดับกระหาย แก้อาเจียน มะม่วงดิบช่วยขับปัสสาวะ แต่มีข้อมห้ามสำหรับอวัยวะภายในเป็นแผลหรืออักเสบ, ผู้ที่เป็นโรคตับ แตงโม ผลไม้ที่ควรกินในฤดูร้อน ช่วยดับกระหายคลายร้อน มีฤดทธิ์หนาว ขับปัสสาวะ แก้เมาเหล้า ผู้ที่กระเพาะและม้ามไม่แข็งแรง ปัสสาวะมาก ปัสสาวะบ่อย ท้องร่วงง่าย ลำไส้อักเสบ ไม่ควรกิน แตงโม เป็นผลไม้ที่นิยมกินกันตอนหน้าร้อนมาก เพราะเป็นผลไม้ที่มีน้ำในตัวอยู่เยอะ รสชาติก็หวานหอมอร่อย มีวิตามินและแร่ธาตุเช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินซี แคลเซียม โพแทสเซียม การกินแตงโมช่วยแก้กระหายน้ำ แก้ร้อนในและช่วยควบคุมความดันโลหิตได้ดีอีกด้วย ทุเรียน เป็นผลไม้ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับ ราชาแห่งผลไม้หน้าร้อน ทุเรียนให้รสชาติหวานมัน และมีวิตามินอยู่หลายตัว เช่น คาร์โบไฮเดรต เส้นใย ไขมัน โปรตีน วิตามินเอ,บี1,บี2,บี3,บี5 ,บี6 ,บี12,ซี แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม และสังกะสี แต่คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ไม่ควรกินทุเรียนมากเกินไปเพราะในทุเรียนมี […]