“หมูกรอบ” กรอบ อร่อย ภัยอันตรายต่อสุขภัย อาหารมากมายหลากหลายชนิดที่วางขายตามท้องตลาด ล้วนแต่ล่อตาล่อใจและชวนให้เรารู้สึกอยากรับประทานกันอยู่ไม่น้อย ถึงแม้จะรู้ว่ากินมาก ๆ แล้วก็อาจจะทำให้อ้วน หรืออาจจะส่งผลเสียสุขภาพก็ตาม โดยเฉพาะอาหารทอด ที่เต็มไปด้วยน้ำมันอย่างหมูกรอบที่บอกได้เลยว่านอกจากแคลอรีที่สูงปรี๊ดแล้ว ถ้ารับประทานเป็นประจำก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ นำพาเอาความเสี่ยงโรคภัยต่าง ๆ หนึ่งในอาหารที่เป็นที่นิยมของคนไทยคือ “หมูกรอบ” ไม่ว่าจะเป็นข้าวหมูกรอบ หมูกรอบผัดพริกแกง หมูกรอบผัดกะเพรา หมูกรอบผัดพริกขิง ก๋วยจั๊บใส่หมูกรอบ และอื่นๆ จากข้อมูลของสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธาณสุข ระบุว่าพลังงานจากหมูกรอบ 100 กรัม (7-10 ชิ้นคำ) ให้พลังงานประมาณ 385 -420 แคลอรี่ไขมัน 30 กรัม โดยหากเป็นข้าวหมูกรอบพลังงานก็จะเพิ่มขึ้น เป็น 550-600 แคลอรี่ และหากเป็นเมนูหมูกรอบที่มีการนำไปผัดกับน้ำมันก็จะทำให้ยิ่งเพิ่มพลังงานมากขึ้น ยิ่งถ้าหากน้ำมันที่ใช้ทอดเป็นน้ำมันที่ผ่านการใช้ซ้ำมาแล้ว ก็จะยิ่งทำให้เสี่ยงกับการได้รับสารพิษที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างไขมัน อาทิ สารโพลาร์ที่เป็นตัวก่อให้เกิดความเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร โรคหัวใจและหลอดเลือด ขณะที่ไอของน้ำมันที่ทอดซ้ำก็ยิ่งซ้ำเติมให้เกิดปัญหาสุขภาพ อันเนื่องมาจากสารโพลีไซคลิก โฮโดรคาร์บอนด์ (PAHs) ที่มีพิษร้ายแรงเช่นเดียวกับควันจากรถยนต์ ไฟจากการหุงต้ม […]
ในยุคของการแข่งขัน ที่เรากำลังประสบอยู่ในปัจจุบัน ชีวิตมีความรีบเร่งมากขึ้น จนไม่ค่อยมีเวลาที่จะให้ความสำคัญกับเรื่อง ความสมดุลของอาหารที่รับประทานรวมทั้งค่านิยมการรับประทานอาหารแบบตะวันตก ซึ่งประกอบด้วย เนื้อสัตว์ ไขมัน นม เนย เป็นส่วนใหญ่ ทำให้คนไทยมีโรค ซึ่งเกิดจากการกินดีเกินไป เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอัมพาต ซึ่งโรคเหล่านี้ล้วนเกี่ยวกับความเสื่อมของหลอดเลือด คนไทยหันมาใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องการออกกำลังกาย การใช้ชีวิต หรือการทานอาหารที่กากใยธรรมชาติ วิตามิน และเกลือแร่มากขึ้น 1. ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสีดำๆ ม่วงๆ นิ่มเหนียวเคี้ยวมันนี่ล่ะค่ะ สรรพคุณดีไม่แพ้ควินัว หรือเมล็ดเจียเลยทีเดียว นอกจากจะเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ดีกว่าข้าวขาวแล้ว ยังมีสารอาหารที่น่าสนใจอีกเพียบ เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินอี สังกะสี โฟเลต โอเมก้า 3 แถมยังช่วยสร้างคอลลาเจน และลดสิวได้อีกด้วย 2. ปลาเนื้อขาว ไม่ว่าจะเป็นปลาหิมะ ปลาดอลลี่ ปลากะพง และปลาเนื้อขาวอื่นๆ กำลังเป็นที่นิยมของหมู่คนรักสุขภาพ ที่พยายามเลี่ยงเนื้อแดงทั้งหลาย เพราะหลายคนทราบกันดีว่าเนื้อแดงเป็นสาเหตุบางส่วนของการเกิดโรคมะเร็ง ทั้งนี้ปลาเนื้อขาวทั้งอร่อย ปรุงง่าย ย่อยง่าย […]
หลายๆ คนที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย ก็อยากที่จะทานอาหารคลีนร่วมด้วย เพื่อให้น้ำหนักตัวของเราสามารถที่จะลดลงได้เร็วมากขึ้นกว่าปกติ ถึงแม้เราจะรู้ว่ามันส่งผลดีต่อเราขนาดไหน ก็ยังไม่ได้เริ่มหันมาทานคลีนซะที เพราะความคิดที่ว่าการทานคลีนป็นเรื่องที่วุ่นวาย รวมทั้งไม่มีเวลาที่จะมาเตรียมหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อการทานคลีนโดยเฉพาะ วันนี้แอดมินจึงมีเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้เราได้เริ่มลงมือทานคลีนอย่างจริงจัง อย่าลังเลเด็ดขาด ให้เราลงมือทานคลีนในทันทีตั้งแต่วันนี้ ลงมือจัดการโละของที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเราไปให้หมด เพราะถ้าหากเราไม่ยอมโละของพวกนี้ มันก็จะยังมีอยู่ในบ้าน แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่ถึงจะได้เริ่มทานคลีนซะที เปิดเข้าเว็บไซต์ที่รวบรวมเมนูอาหารคลีน จะช่วยในการกระตุ้นให้เราสามารถทานคลีนต่อไปได้เรื่อยๆ เพราะแต่ละเมนูอาหารคลีนที่แต่ละเว็บไซต์รวบรวมมาให้ทุกคน ล้วนแต่หน้าตาน่าทานไม่แตกต่างจากอาหารทั่วไปเลย ด้วยการที่หาอาหารคลีนทานนอกบ้านไม่ได้ ถึงทำให้หลายคนไม่ได้เริ่มลงมือจริงจริงกับการทานคลีน เพราะไม่สะดวก ลองหันมาใช้เวลาก่อนนอนวางแผนสำหรับเมนูอาหารกล่องของวันพรุ่งขึ้น ก็จะช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจที่จะทำอาหารคลีนไปทานเองตอนอยู่นอกบ้าน ที่สำคัญการทำอาหารทานเองจะช่วยให้เราประหยัดเงินในกระเป๋าได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ในเมื่อตัดสินใจเริ่มลงมือทานคลีนอย่างจริงจัง เราต้องไม่ลืมว่าต้องทานอาหารในปริมาณที่พอเหมาะกับที่ร่างกายของเราต้องการเท่านั้น เพราะถ้าทานในปริมาณมากไป ถึงแม้จะเป็นอาหารคลีน ก็ไม่ช่วยให้น้ำหนักของเราลดลงได้ ข้อสำคัญในการลดน้ำหนักด้วยการทานคลีนคือ เราจะต้องไม่กดดันตัวเองจนมากเกินไป เพราะการที่เรากดดัน จะส่งผลให้เราเกิดอาการเบื่อหน่าย หงุดหงิดง่าย และหยุดทำในกลางคัน ฉะนั้นแล้วเราต้องเพลิดเพลินไปกับการทานคลีน ด้วยและการคิดประยุกต์เมนูอาหารคลีนจะช่วยให้เราสนุก และสามารถทำไปได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อหน่าย หรือจะหามื้อว่างหนึ่งมื้อในแต่ละอาทิตย์มาทานของโปรด แค่เราเพียงเพิ่มการออกกำลังกายในวันนั้นๆ ก็สามารถที่จะทำได้ในช่วงลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย กับการทานคลีนได้เช่นกัน และเมื่อเราสามารถลดน้ำหนักได้ตามที่ตัวเราเองต้องการ ก็ควรที่จะทานคลีนต่อไปเพื่อสุขภาพที่ดีของเรา […]
พุงป่องปัญหาใหญ่ของใครหลายๆคน ที่ไม่ว่าจะลดยังไงเจ้าพุงป่องก็ยังมีขนาดที่เท่าเดิมหรือบางทีกลับมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่พุงป่องๆ ของเรานั้นมันอาจเป็นหนึ่งในตัวต้นเหตุของโรคมะเร็ง โรคหัวใจหรือโรคเบาหวานชนิดที่สอง เพราะฉะนั้นแล้วเรามาดูกันดีกว่าว่าเรามีพฤติกรรมไหนบ้างที่ส่งผลให้ลดพุงป่องลงไม่ได้ ออกกำลังกายไม่เพียงพอที่จะช่วยในการกระชับสัดส่วนหรือเผาผลาญไขมัน การออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน ว่ายน้ำหรือการออกกำลังเพื่อเรียกเหงื่อที่เรารู้จักกันในชื่อคาร์ดิโอ เป็นการออกกำลังกายที่จะช่วยเรื่องของหัวใจแต่สามารถที่จะช่วยเผาผลาญไขมันได้น้อยมาก เพราะฉะนั้นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ให้เราเล่นอย่างน้อยประมาณ 30 นาทีขึ้นไปเพื่อให้ร่างกายของเราได้เรียกใช้ไขมันมาเป็นพลังงาน หรือออกกำลังกายด้วยการเล่นเวทร่วมด้วย เป็นการช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายของเราเผาผลาญเพิ่มมากขึ้น นอนหลับพักผ่อนไม่พอต่อความต้องการของร่างกาย จากผลการวิจัยของสถาบันสุขภาพนานาชาติประเทศอเมริกา เผยว่ากลุ่มคนที่มีการนอนหลับน้อยกว่า 6 ชั่วโมง มีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นถึง 30% หรืออาจจะมากกว่า แต่ในกลุ่มคนที่มีการนอนหลับวันละไม่น้อยกว่า 7 – 8 ชั่วโมง จะมีแนวโน้มน้ำหนักตัวที่ลดลง ซึ่งก็เป็นเพราะว่าคนที่นอนหลับน้อย ร่างกายจะเกิดอาการแปรปรวน ส่งผลทำให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้ไม่เต็มที่หรือทำงานได้น้อยลงกว่าที่ควร ความเครียดเองก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เราไม่สามารถลดพุงป่องๆ ได้ลง เพราะเมื่อคนเราเครียดร่างกายของเราจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาในปริมาณที่มากเกินกว่าปกติ ทำให้ไขมันในเลือดกระจายไปสู่เซลล์ต่างๆ ส่งผลให้เกิดสภาวะไขมันในส่วนช่องท้องได้ง่ายกว่าปกติ อาหารกึ่งสำเร็จรูปเป็นหนึ่งในอาหารที่มีส่วนผสมของแป้งเยอะ พอร่างกายได้รับแป้งมากก็จะเปลี่ยนแป้งให้กลายเป็นไขมันแล้วเก็บสะสมเอาไว้ ส่วนการดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลม อาหารจังก์ฟู้ด หรืออาหารแป้งขัดสีทุกวันก็จะทำให้เรามีพุงป่องได้เช่นกัน อาหารเหล่านี้เป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้การทำลายพุงป่องเป็นเรื่องที่ยากขึ้น หากเรามีพฤติกรรมเหล่านี้แล้วล่ะก็ ต้องหยุดและหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราให้ถูกต้อง คราวนี้หล่ะพุงป่องๆ จะหายไปกลายเป็นหน้าท้องแบนราบที่ทุกคนต้องการ และยังช่วยลดต้นเหตุที่ทำให้เราเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจหรือโรคเบาหวานชนิดที่สองได้อีกด้วย คุ้มแบบนี้แล้วจะรอช้าอยู่ทำไมเรามาเริ่มกันตั้งแต่ตอนนี้เลยเพื่อตัวของเราเอง
เด็กหอแต่ละคนเรื่องอาหารการกินก็คงจะไม่ค่อยพิถีพิถันหรือคำนึงมากกันสักเท่าไหร่ว่าจะทำให้เกิดความอ้วน โดยเฉพาะคนที่กินตามใจปาก เห็นมานักต่อนักแล้วอ้วนทุกราย ! ยิ่งหน้ามหาวิทยาลัยมีแต่ของอร่อยๆจำพวก ไอศกรีม ลูกชิ้นทอด เค้ก หรือขนมถึง เป็นใครก็อดใจไม่ไหวต้องซื้อมาทานให้หายอยาก เหมือนกับเธอคนนี้มีชื่อว่า บุ๊ค เป็นนักศึกษาปีสาม เด็กหอคนนี้เธอบอกว่าพอได้มาอยู่หอน้ำหนักตัวขึ้นจากเดิมมากถึง 10 กิโลกรัม ด้วยความอยู่ดีกินดีนั่นเอง แม้เจ้าตัวจะสูงถึง 168 เซนติเมตร หนัก 62 กิโลกรัม ทุกคนต่างลงความเห็นว่าตัวจะแตกแล้ว ต้องหัดดูแลตัวเองบ้าง สาวบุ๊คจึงต้องหันมาลดน้ำหนักเป็นการด่วน เพราะอยากที่จะเริ่มดูดีและจะได้ใส่เสื้อผ้าสวยๆอย่างมั่นใจนั่นเอง เริ่มแรกสาวบุ๊คบอกว่าเธอคิดผิดมากๆ ที่หันไปพึ่งยาลดความอ้วน แต่ตอนนั้นทานเพราะกระแสยาลดความอ้วนที่มาแรง เมื่อลองแล้วผลว่าร่างกายเริ่มผิดปกติ นอนไม่หลับ ปากแห้งอยากทานน้ำตลอดเวลา เธอจึงหยุดและหันมาเน้นการควบคุมอาหารดีกว่า ทั้งนี้สาวบุ๊คจริงจังอย่างมากที่จะทานอาหารคลีน หากว่าเด็กหอคนไหนที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวก็สามารถสร้างสรรค์เมนูแบบสาวบุ๊คได้ตามสบาย ซึ่งเมนูคลีนนี้เธอจะเน้นการทานอาหารที่เป็นผัก และไม่ได้เคร่งครัดมาก เพราะเนื้อสัตว์ต่างๆก็ยังทานเป็นปกติเพียงแต่ทานให้พออิ่ม และที่สำคัญเลยก็คือ จะใช้การต้ม นึ่ง หรือว่าจะอบลมร้อนให้อาหารสุกก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ลดแคลอรี่ความอ้วนได้เป็นอย่างดี แต่ละเมนูนั้นจะใช้น้ำมันให้น้อยที่สุด ซึ่งสาวบุ๊คได้บอกว่า อาหารที่ทำทานเองมีข้อดีหลายอย่าง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการลดความอ้วนเพราะสามารถจำกัดปริมาณแคลอรี่ที่ทานได้ ประหยัดและยังได้อาหารคุณภาพดีอีกด้วยนะ เห็นเธอทานอาหารแต่ละอย่างแบบเอ็นจอยขนาดนี้ บุ๊คบอกว่าก็ไม่ลืมที่จะออกกำลังกาย เพื่อเบิร์นไขมันออกไป ทั้งนี้เธอได้หาวิธีการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องออกกำลังกายหรือกิจกรรมทางกีฬาต่างๆ ไม่ว่า วิ่ง […]
การลดน้ำหนักให้ได้ผลเรายะต้องดูแลเรื่องอาหารไม่น้อยไปกว่าการออกกำลังกายเลยทีเดียว แต่ก่อนที่koyจะประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักก็เคยล้มเหลวมาก่อน koyเคยทำโปรตีนไดเอทพร้อมออกกำลังกายไปด้วย ผลที่ได้คือลดลงมา 2 กิโลกรัมในหนึ่งอาทิตย์แต่อาทิตย์ถัดมาน้ำหนักก็กลับมาที่เดิม หลังจากนั้นkoyก็ลองลดแป้งแต่ไม่ได้ทานคลีนรวมทั้งออกกำลังกาย หุ่นเริ่มเฟิร์มขึ้นน้ำหนักเริ่มคงที่ที่ 58 กิโลกรัม ในช่วงนี้koyว่าไม่ว่าจะออกกำลังกายเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ยอมลงสักที จนเมื่อครบหนึ่งปีkoyก็เริ่มหันมาทานคลีนรวมถึงออกกำลังกายที่ฟิตเนส จึงได้หุ่นงามอย่างที่koyต้องการ สิ่งที่koyทำมาตลอดในช่วงลดน้ำหนัก koyนับแคลลอรี่ตลอดว่าต้องทานอะไรมากน้อยเท่าไหร่ และในแต่ละมื้อkoyทานอะไรบ้าง มื้อเช้าkoyจะเริ่มทานหลังตื่นนอนในทันที ในมื้อนี้koyจะดื่มน้ำเกรปฟรุ๊ตผสม apple cider จำนวน 2 ช้อนชา +มูสลี่จำนวน 4 ช้อนโต๊ะพูนๆ + ผงซินนาม่อนจำนวนครึ่งช้อนชา + กล้วย 1 ใบ + กาแฟจำนวน 1 ช้อนชา น้ำตาลทรายแดงจำนวน 1 ช้อนชา และคอฟฟี่เมทจำนวน 1 ช้อนชา ( 400 cal ) หลังจากผ่านมื้อเช้ามาได้ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง koyจะทานแอปเปิ้ล + เนยถั่วจำนวน 1 […]
