“อาการหน้าแพ้ครีม” เป็นอาการที่มีสิทธิ์เกิดขึ้นได้กับทุกๆคน ตราบใดที่เรายังต้องทาครีมบำรุงผิวมากมายหลายตัวอยู่ทุกๆเมื่อเชื่อวัน โดยอาการของคนที่แพ้ครีมนั้นจะมีอาการแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีอาการที่ใกล้เคียงกันคือ มีอาการหน้าแสบแดง มีผดผื่น หรือตุ่มน้ำเม็ดเล็กๆเห่อขึ้นมาเป็นจำนวนมาก บางครั้งก็ดูเหมือนสิวผด หรือไม่ก็มีสิวอักเสบขึ้นมาหลายเม็ดในตำแหน่งที่ไม่เคยขึ้นมาก่อน มักมีอาการคันร่วมด้วย
วิธีแก้ปัญหาหน้าแพ้ครีม
เชื่อเถอะ!!! ว่าเราเข้ากันไม่ได้
สาเหตุหลักของอาการแพ้ครีมที่ว่า ก็มักเกิดจากการที่เราลองใช้ครีมตัวใหม่ที่เราไม่เคยใช้มาก่อน แล้วดันโชคร้ายที่ครีมตัวนั้นมันเข้ากับหน้าของเราไม่ได้ มันก็เลยต่อต้านเรา ก็เลยส่งอาการแพ้มาบนหน้าเพื่อเป็นสัญญาณบอกเราว่า “ฉันไม่ชอบหน้าเธอ เลิกใช้ฉันเถอะ” ในเมื่อเราเข้ากับครีมตัวใหม่ที่ว่าไม่ได้ ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ เลิกใช้ครีมตัวนั้นอย่างด่วน แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า พอเราเลิกใช้แล้วเรื่องมันยังไม่จบน่ะสิ เพราะมันได้ฝากภาระอันใหญ่หลวงเอาไว้ให้เราแก้อีกนั่นก็คือ ผดผื่น สิว อาการหน้าแดงคันบนใบหน้า ที่มันไม่ใช่ว่ารักษาอาทิตย์สองอาทิตย์แล้วจะหายได้ คือการรักษาอาการแพ้เหล่านี้ต้องใช้เวลาบวกกับวิธีการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม ถึงจะสามารถรักษาอาการเหล่านี้ให้หายไปได้
แล้วต้องทำยังไงต่อไป?
ในเมื่อหน้าของเรามันเกิดอาการแพ้ขึ้นมาแล้ว เราก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหาวิธีแก้ปัญหาตรงนี้ไปให้ได้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ไปหาหมอผิวหนังซะ เพื่อให้หมอดูอาการแพ้ของเรา และช่วยรักษาอาการที่ว่าให้หายไปอย่างรวดเร็วที่สุด
แต่เราเชื่อว่ามีหลายคนที่ไม่อยากจะไปหาหมอ และอยากลองรักษาอาการแพ้ด้วยตัวเองดูสักครั้ง วิธีแก้อาการแพ้ครีมเบื้องต้นมาแนะนำกันค่ะ เชิญรับชมได้เลย
เลิกใช้ครีมที่แพ้
1. เลิกใช้ครีมตัวปัญหาทันที
ขั้นตอนแรกของการแก้ปัญหาอาการแพ้ครีมก็คือ เลิกใช้ครีมที่ทำให้หน้าเกิดอาการแพ้ทันที ถึงแม้ว่าครีมที่ซื้อมาใหม่จะมีราคาแพงขนาดไหนก็ตาม เพราะครีมราคาแพงไม่ได้แปลว่าใช้แล้วดีเสมอไป แต่อย่าเพิ่งจับมันโยนทิ้งลงถังขยะนะค่ะ เพราะมันยังมีประโยชน์อยู่บ้าง ก่อนที่เราจะกำจัดมัน เราอยากให้เราจดส่วนผสมของครีมที่เราแพ้เอาไว้ก่อน เพื่อเราจะได้เอามาวิเคราะห์ภายหลังว่า เราน่าจะแพ้สารตัวไหนที่อยู่ในครีม เวลาที่เราจะซื้อครีมตัวใหม่มาใช้ จะได้ดูส่วนผสมในครีมก่อนว่า มันมีความเสี่ยงที่ใช้แล้วแพ้หรือไม่ จะได้หลีกเลี่ยงไม่ต้องซื้อมาใช้ สามารถลดความเสี่ยงต่อการแพ้ครีมไปได้เยอะเลยค่ะ
ลดสิว ผิวสวย ด้วยน้ำผึ้ง
2. หยุดใช้เครื่องสำอางค์ หรือครีมบำรุงผิวทุกชนิด
หลังจากที่เราเลิกใช้ครีมตัวปัญหาไปแล้ว ต่อมาเราควรหยุดใช้ครีมบำรุงผิวที่เราเคยใช้อยู่ก่อนหน้านี้ ทั้งเดย์ครีม ไนท์ครีม โทนเนอร์ มอยเจอไรเซอร์ แป้งพัฟ และที่สำคัญหยุดใช้ครีมกันแดดก่อน เพราะครีมเหล่านี้อาจจะเข้าไปขัดขวางการรักษาอาการแพ้ของเรา อาจทำให้หน้าของเราเกิดการระคายเคืองและอักเสบมากยิ่งขึ้น หยุดใช้รอให้รักษาผดผื่นที่หน้าให้หายก่อน แล้วค่อยกลับมาบำรุงผิวก็ยังไม่สายค่ะ
ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ลดอาการแพ้
3. ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า
เวลาที่หน้าเราเกิดอาการแพ้ขึ้นมา ครีมอะไรที่เราใช้อยู่ก่อนหน้านี้ ก็อาจทำให้อาการแพ้ของเรารุนแรงมากขึ้นได้ทั้งนั้น เพราะผิวหน้าเรามันไม่เหมือนเดิมแล้ว มันอ่อนแอจนเกินรับไหว โฟมล้างหน้าก็เป็นผลิตภัณฑ์อีกหนึ่งตัวที่ไม่ควรมองข้าม เพราะโฟมล้างหน้าจัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้าเป็นอันดับต้นๆ ไม่ว่าจะเป็นสูตรอ่อนโยนขนาดไหน เมื่อมันมาสัมผัสกับผิวที่แพ้ของเราแล้ว ความอ่อนโยนของมันก็อาจจะหายไป อาจกลายเป็นสิ่งที่ทำให้อาการแพ้ของเราหนักมากขึ้นกว่าเดิมได้ เพราะฉะนั้นในช่วงที่เรามีอาการแพ้ครีมอยู่ ควรงดใช้โฟมล้างหน้า แล้วหันมาล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าจะดีกว่า เป็นการลดการระคายเคืองที่ผิวหน้าอย่างดีเยี่ยม ช่วยปูทางให้กับการรักษาผิวหน้าในขั้นตอนต่อไป
งดการพอกหน้า มาร์คหน้าต่างๆ
4. งดการพอกหน้า มาร์คหน้าต่างๆ
เมื่อหน้าเราแพ้เราควรงดกิจกรรมที่จะเป็นการรบกวนใบหน้าของเราให้มากที่สุด การพอกหน้าหรือการมาร์คหน้าก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เราควรหยุดเอาไว้ก่อน เพราะส่วนใหญ่การพอกหน้านั้นมักจะทำให้ผิวของเราแห้งมากกว่าเดิม ซึ่งจะเป็นการทำให้หน้าที่แพ้ของเราหนักหนาสาหัสมากขึ้นไปอีก(ผิวหน้าของคนที่แพ้มักจะแห้งกว่าปกติ) เพราะฉะนั้นถ้าอยากหายจากอาการแพ้แล้วล่ะก็หยุดพอกหน้ากันก่อนดีที่สุดค่ะ
Nizral Cream
5. ทายาลดผดผื่นคัน
บางครั้งหน้าของเราที่แพ้อาจเกิดอาการคันร่วมด้วย เมื่อเราคันจนทนไม่ไหวก็อาจหายาทาที่สามารถช่วยลดอาการบนหน้าของเรามาทาบ้าง ลองไปหาซื้อยาทาแก้คันตามร้านขายยามาใช้ดู ลองปรึกษากับเภสัชที่ขายยาก็ได้ บอกอาการเบื้องต้นให้เภสัชรู้ เขาจะได้แนะนำยาทาที่เหมาะสมกับอาการแพ้ของเราให้ ตัวอย่างยาทาที่ใช้ลดอาการคันก็เช่น ยาที่มีส่วนผสมของ Ketoconazole ซึ่งยาเหล่านี้มักจะผสมสารสเตียรอยด์เข้าไปด้วยเพื่อให้ยาออกฤทธิ์ระงับอาการแพ้ได้อย่างรวดเร็ว สามารถใช้ได้ไม่ต้องกังวลมากนัก เพราะเราใช้แค่ชั่วครั้งชั่วคราว พอหายเราก็เลิกใช้แล้ว
อย่าบีบสิว
6. อย่าบีบสิวเองเด็ดขาด
บางครั้งอาการแพ้ของเรา อาจมีการเกิดสิวเห่อร่วมด้วย ซึ่งพอเห็นสิวบางคนก็อาจเกิดอาการคันไม้คันมืออยากบีบมันขึ้นมาได้ แต่ขอบอกว่าอย่าทำอย่างนั้นเด็ดขาด อย่าบีบสิวที่ขึ้นมาตอนที่เราแพ้ เพราะจะยิ่งทำให้เรื่องเลวร้ายมากขึ้น จะทำให้อาการแพ้ของเราบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะปัญหาแผลเป็นหลุมสิวที่จะตามมา เพราะฉะนั้นอย่าบีบสิวเด็ดขาด แต่ถ้าเกิดมีสิวอักเสบขึ้นมาก็สามารถหายาแต้มสิวพวก Clinda-M , Clindalin gel ,มาแต้มที่หัวสิวได้ เพื่อทำให้อาการอักเสบลดน้อยลง
เจลว่างหางจระเข้
7. ทาครีมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว
บางคนอาจจะงงว่าตอนแรกบอกให้งดทาครีม แต่ทำไมข้อนี้บอกให้ทาครีมอีกแล้ว ค่ะครีมที่เราใช้อยู่อาจจะต้องงด แต่ครีมบางตัวก็ยังจำเป็นต้องทา โดยเฉพาะครีมที่ช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยลดอาการระคายเคือง ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าของเราให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกมอยเจอร์ไรเซอร์เอาไว้ทาเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เลือกตัวที่คิดว่าใช้แล้วไม่ทำให้แพ้และระคายเคืองมากขึ้น อีกตัวที่อยากแนะนำคือ เจลว่านหางจระเข้เอามาทาบำรุงผิวก่อนเข้านอนได้ นอกจากจะช่วยให้หน้าชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยต้านอาการแพ้อาการอักเสบของผิวหน้าได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ผิวหน้าแข็งแรงขึ้นได้ แต่ควรเลือกแบบไม่ผสมแอลกอฮอร์จะดีที่สุด หากใครสนใจข้อมูลเกี่ยวกับเจลว่านหางจระเข้ที่ละเอียดกว่านี้ อ่านได้ที่บทความนี้ค่ะ มาเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหน้า หลังทายารักษาสิวกันกับ “เจลว่านหางจระเข้” (Aloe vera gel) หน้าแดง หน้าลอก ไม่ควรพลาด
นี่ก็เป็นวิธีแก้อาการแพ้ครีมเบื้องต้น หากใครมีปัญหาอยู่ลองทำตามนี้ดูน่าจะสามารถช่วยลดหรือบรรเทา สิว ผดผื่นคัน อาการแสบแดง บนหน้าได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าจะให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้น เราก็ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดมากๆ และกินผักผลไม้เยอะๆ เพื่อให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นในการฟื้นฟูสภาพผิวที่ย่ำแย่ของเรา ให้กลับมาแข็งแรงสวยใสเหมือนเดิม