สุดยอดสรรพคุณ ว่านหางจระเข้

ต้นว่านหางจระเข้ มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา โดยจัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกมีอายุหลายปี มีความสูงประมาณ 0.5-1 เมตร ลำต้นเป็นข้อปล้องสั้น มีใบเป็นใบเดี่ยว ใบหนาและยาว อวบน้ำ แผ่นใบมีสีเขียว มีจุดยาวสีขาวอ่อนออกเรียงเวียนรอบต้น โคนใบใหญ่ ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก มีหนามแหลมเล็ก ๆ สีขาวอยู่ห่างกัน ข้างในใบเป็นวุ้นสีเขียวอ่อน ส่วนดอกว่านหางจระเข้ ออกดอกเป็นช่อกระจะที่ปลายยอด ดอกมีสีแดงอมสีเหลือง ก้านช่อดอกยาว โคมเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 6 แฉก เรียงเป็น 2 ชั้น เป็นรูปแตร ส่วนผลว่านหางจระเข้ เป็นผลแห้งคล้ายรูปกระสวย

“ว่านหางจระเข้” (Aloe Vera) เป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นปล้องสั้น ใบหนายาวและใหญ่ สีเขียวอ่อน โดยลักษณะพิเศษของว่านหางจระเข้คือมีใบอวบน้ำ ข้างในใบจะมีวุ้นใสอัดแน่นอยู่ หลายคนสงสัยว่าวุ้นใสๆ ในใบของว่านหางจระเข้คืออะไร? จริงๆ แล้ววุ้นของว่านหางจระเข้คือ “ยาง” ของใบอวบอ้วนของมันนั่นเอง นอกจากความโดดเด่นของใบอวบน้ำ ว่านหางจระเข้ยังมีส่วนที่มีสรรพคุณเป็นยาด้วย ทั้งราก และดอก เรียกได้ว่าสมุนไพรชนิดนี้มีประโยชน์ทั้งต้นเลยทีเดียว

– ช่วยขจัดรอยแผลเป็น ทำให้แผลเป็นจางลง ป้องกันการเกิดรอยแผลเป็น (วุ้นจากใบ)
– ช่วยรักษาอาการผิวหนังไหม้จากแสงแดด หรือไหม้เกรียมจากการฉายรังสี หรือแผลเรื้อรังจากการฉายรังสี
– วุ้นจากใบใช้ทาเพื่อรักษาฝ้า (วุ้นจากใบ)
– ช่วยรักษาโรคเรื้อนกวาง (โรคสะเก็ดเงิน) ช่วยลดการตกสะเก็ดและลดอาการคันของโรคเรื้อนกวาง ทำให้แผลดูดีขึ้น (วุ้นจากใบ)
– เนื้อวุ้นของว่านหางจระเข้ช่วยรักษาโรคเบาหวานได้ โดยนำเนื้อวุ้นมาปั่นดื่ม หรือสับเนื้อวุ้นให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้งเล็กน้อยทานก็ได้
– ว่านหางจระเข้เป็นพืชเย็น ช่วยเยียวยาอาการบาดเจ็บทั้งภายนอกและภายในร่างกายได้
– ว่านหางจระเข้ช่วยให้รอยแผลเป็นจางลง ช่วยให้ผิวที่เกิดรอยแตกแห้งชุ่มชื่นขึ้น จึงป้องกันรอยดำจากแผลตกสะเก็ด หรือรอยดำของสิวได้
– เนื้อวุ้นของว่านหางจระเข้ช่วยรักษาโรคเบาหวานได้ โดยนำเนื้อวุ้นมาปั่นดื่ม หรือสับเนื้อวุ้นให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้งเล็กน้อยทานก็ได้